วันพุธที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

เซนเซอร์(sensor)คืออะไร???

posted on 15 Aug 2009 00:10 by sensor-of-fluid
  เซนเซอร์ (sensor) คืออะไร           
               อุปกรณ์ตรวจจับสัญญาณหรืองปริมาณทางฟิสิกส์ต่างๆ เช่น อุณหภูมิ เสียง แสง แรงทางกล
(force) ความดันบรรยากาศ(pressureระยะกระจัด(displacementความเร็ว
(speed)  อัตราเร่ง (accelerationระดับของๆเหลว(liquid level)และอัตราการไหล
(flow rateจากนั้นจะทำหน้าที่เปลี่ยนเป็นสัญญาณออก
หรือปริมาณเอาต์พุตที่ได้จากการวัดในอีกรูปแบบหนึ่งที่สามรถนำไปประมวลผลต่อได้
           
              ปัจจัยในการเลือกเซนเซอร์ใช้งานขึ้นอยู่กับปริมาณธรรมชาติของปริมารทางฟิสิกส์ที่
จะทำการวัดและควบคุมค่าเป็นสำคัญ รวมไปถึงราคา ความน่าเชื่อถือ ตลอดจนคุณภาพของข้อมูล
ที่ทำการวัด นอกจากนี้ยังมีปัจจัยสำคัญอื่นที่ควรพิจารณาอีก เช่น ความเหมาะสมของเซนเซอร์ที่
จะนำไปใช้ในสภาพแวดล้อมนั้นๆ
               
                    ยกตัวอย่างเช่น เชนเชอร์ตรวจวัดอุณหภูมิที่ถูกออกแบบให้ใช้งานในบ้านพักอาศัยทั่ว
ไปจะมีความแตกต่างและไม่สามารถนำไปใช้แทนเซนเซอร์วัดอุณหภูมิในโรงงานผลิตสารเคมีได้
ทั้งนี้เนื่องจากเซนเซอร์ตรวจวัดอุณหภูมิซึ่งใช้ในกระบวนการผลิตต่างๆในโรงงานนั้นจำเป็นต้อง
มีอัตราความสามารถในการทนต่อสภาวะที่อุณหภูมิสูง ความดันสูงหรือสามารถทนต่อการกัด
กร่อนได้สูง กว่าเซนเซอร์ที่ถูกออกแบบให้ใช้งานทั่วไป


ทำไมจำเป็นต้องใช้เซนเซอร์ ???
           
  โดยทั่วไปเทคโนโลยีของเซนเซอร์ได้ถูกนำไปใช้เป็นองค์ประกอบหลักที่สำคัญในลักษณะงาน 2ประเภท

  1. ใช้ตรวจวัดปริมาณทางฟิสิกส์    เพื่อนำไปแสดงผลการตรวจวัดหรือจัดเก็บบันทึกเป็นข้อมูล
ในระบบการวัด
    2.ใช้ตรวจสอบสภาพกระบวนการในระบบการควบคุม   เซนเซอร์สำหรับการตรวจวัดข้อมูลที่
เป็นตัวแปรทางฟิสิกส์ โดยมากจะถูกนำไปใช้เป็นข้อมูลเพื่อแสดงสถานะสภาพของระบบในขณะ
นั้น เช่น เซนเซอร์วัดความเร็วในรถยนต์ และมิเตอร์วัดความเร็ว เป็นต้น แต่ในบางครั้งเซนเซอร์
อาจจะใช้สำหรับการบันทึกข้อมูลเพื่อใช้สำหรับการบันทึกข้อมูลแสดงสมรรถนะของระบบได้เช่น
กัน เช่น ทาโคกราฟ  (tachograph) ที่บันทึกข้อมูลแสดงเป็นกราฟของความเร็วเทียบกับเวลา
ในรถยก หรือรถบรรทุก เป็นต้น
สำหรับกรณีของเซนเซอร์ที่ใช้ในการตรวจสอบสภาพกระบวนการส่วนใหญ่แล้วจะมีความ
หลากหลายและแตกต่างกันน้อยกว่าเซนเซอร์ที่ใช้สำหรับตรวจวัดและบันทึกข้อมูลข้าง
ต้น ทั้งนี้เนื่องจากเซนเซอร์สำหรับตรวจวัด และบันทึกข้อมูลจำเป็นต้องมีความหลาก
หลายแตกต่างกันไปตามปริมาณทางฟิสิกส์ที่ทำการวัดและจัดเก็บเป็นข้อมูลที่จะนำไปใช้
งานต่อไป  ในส่วนของระบบควบคุมทั่วไปสัญญาณออกหรือข้อมูลที่ได้จากเซนเซอร์จะ
ถูกป้อนไปเป็นสัญญาณอินพุตให้กับอุปกรณ์ควบคุมกระบวนการของระบบ เพื่อให้การทำ
งานของระบบเป็นไปตามที่เราต้องการ เช่น สัญญาณออกหรือข้อมูลที่ได้จากเซนเซอร์
ตรวจสอบความเร็วล้อรถในระบบเบรกป้องกันล้อล็อก จะถูกส่งไปควบคุมแรงดันปั๊ม
ไฮโดรลิกของเบรกทำการบังคับและห้ามล้อไม่ให้เกิดการลื่นไถลในขณะที่ผู้ขับทำการเบรก

ได้จากเวป  

1.เซ็นเซอร์ แสง คือ 

เซนเซอร์ชนิดใช้แสง (Optical sensor หรือ Photo sensor) โดยทั่วไปใช้ในงานการตรวจจับการเคลื่อนไหว การตรวจจับวัตถุ และการตรวจสอบขนาดรูปร่างของวัตถุ เซนเซอร์ชนิดนี้ทำงานโดยอาศัยหลักการส่งและรับแสง มีส่วนประกอบสำคัญ 2 ส่วนคือ ตัวส่งแสง (Emitter) และตัวรับแสง (Receiver) ลักษณะการตรวจจับเกิดจากการที่ลำแสงจากตัวส่งแสง ส่งไปสะท้อนกับวัตถุหรือถูกขวางกั้นด้วยวัตถุ ส่งผลให้ตัวรับแสงรู้สภาวะที่เกิดขึ้นและเปลี่ยนแปลงสภาวะของสัญญาณทางด้านเอาต์พุตเพื่อนำไปใช้งานต่อไป
อุปกรณ์ที่เป็นตัวรับแสงส่วนใหญ่นิยมใช้โฟโต้ไดโอด (Photo diode) หรือโฟโต้-ทรานซิสเตอร์ (Photo transistor) ส่วนตัวส่งแสงนั้นโดยทั่วไปใช้ LED (Light Emitting Diode) เนื่องจากการต่อใช้งานร่วมกับวงจรอิเล็กทรอนิกส์ทำได้ง่าย สะดวกในการบำรุงรักษา ใช้กระแสไฟฟ้าต่ำ และไม่ได้รับผลกระทบจากสภาวะรอบข้างไม่ว่าจะเป็นสนามแม่เหล็ก ความถี่ ความร้อน ความชื้น หรือการสั่นสะเทือน
แบ่งประเภทของ LED ตามความยาวคลื่นของแสงได้ดังนี้
  • LED แบบแสงอินฟราเรด มีความยาวคลื่นอยู่ในช่วง 910-950 nm ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ให้ความเข้มของแสงสูงและระยะส่งไกล แต่ไม่สามารถแยกแยะความแตกต่างของสีได้
  • LED แบบแสงสีแดง มีความยาวคลื่นประมาณ 650 nm มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ความเข้มของแสงอยู่ในระดับปานกลาง สามารถตรวจจับพื้นผิวที่มีสีดำ สีน้ำเงินและสีเขียวบนพื้นสีขาวได้ดี
  • LED แบบแสงสีเขียว มีความยาวคลื่นประมาณ 560 nm ให้ความเข้มของแสงต่ำ มีระยะการตรวจจับที่ไม่ไกล สามารถตรวจจับพื้นที่สีแดงบนพื้นสีขาวได้ดี
นอกจากนี้ยังมี LED ประเภทแสงเลเซอร์ซึ่งเหมาะสำหรับงานที่ต้องการความละเอียดในการวัดสูง การเลือกใช้ LED แต่ละแบบขึ้นอยู่กับสีและลักษณะพื้นผิวของวัตถุที่ต้องการตรวจจับ
ประเภทของเซนเซอร์ชนิดใช้แสง
สามารถแบ่งตามลักษณะการตรวจจับ และตำแหน่งการติดตั้งตัวรับแสงและตัวส่งแสงได้ 3 ประเภท
นอกจากเซนเซอร์ชนิดใช้แสงทั้ง 3 ประเภทแล้ว ยังมีเซนเซอร์แบบพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานบางอย่างโดยเฉพาะ เช่น ประเภทใยแก้วนำแสง (Fiber-Optic optical sensor) ซึ่งเป็นได้ทั้งแบบสะท้อนวัตถุโดยตรงและแบบแยกตัวรับและตัวส่ง มีระยะการตรวจจับที่ใกล้ที่สุดขึ้นอยู่กับชนิดและคุณสมบัติของใยแก้วนำแสง เหมาะสำหรับใช้ตรวจจับวัตถุขนาดเล็กและใช้ในงานที่มีพื้นที่ติดตั้งน้อย ตัวอย่างการประยุกต์ใช้งานเซนเซอร์ใช้แสงประเภทนี้ได้แก่ การตรวจจับตำแหน่งของป้ายฉลากบนขวดและฝาจุกบนขวดดังแสดงในรูป
ตัวอย่างการประยุกต์ใช้งานเซนเซอร์ใช้แสงประเภทใยแก้วนำแสง
(นวภัทรา และ ทวีพล, 2555)
เนื่องจากเซนเซอร์ใช้แสงมีหลายประเภทและแต่ละประเภทมีความเหมาะสมกับงานที่แตกต่างกัน ในการเลือกใช้นอกจากการพิจารณาถึงลักษณะงานแล้ว ยังต้องพิจารณาถึงองค์ประกอบอื่น ๆ ด้วย เช่น ลักษณะของวัตถุ ได้แก่ ขนาด รูปร่าง สี ลักษณะพื้นผิว ตำแหน่งติดตั้งหรือตรวจจับวัตถุ ความเร็วในการเคลื่อนที่ของวัตถุผ่านเซนเซอร์ ระยะห่างระหว่างเซนเซอร์ที่อยู่บริเวณใกล้เคียง และสภาพแวดล้อมในบริเวณใช้งาน

2.เซ็นเซอร์ อุณหภูมิ คือ

การวัดอุณหภูมิ (Temperature measurement)

อุณหภูมินับเป็นค่าการวัดพื้นฐานหรือพารามิเตอร์ตัวหนึ่งที่ต้องท าการวัดค่า เพื่อน าไปใช้ประโยชน์
ในระบบการควบคุมให้เป็นไปตามความต้องการ ค าว่า อุณหภูมิ(Temperature) และความร้อน 
(Heat) มีความหมายใกล้เคียงกันมาก แต่อุณหภูมิจะหมายถึงระดับของความร้อน (Degree of 
Heat) คือ อุณหภูมิเป็นตัวแทนของความร้อน ส่วนความร้อนหมายถึง ปริมาณพลังงานความร้อน 
(Quantity of Heat Energy)

หน่วยวัดอุณหภูมิ (Temperature Scale unit)

หน่วยวัดอุณหภูมิมีหลายแบบที่นิยมใช้กัน คือ หน่วย
เซลเซียส (Celsius) นิยมใช้กันทั่วไปมาก , หน่วยฟาเรนไฮต์
(Fahrenheit) , และหน่วยเคลวิน (Kelvin) ซึ่งเป็นหน่วย
มาตรฐานสากล
สัญลักษณ์ที่ใช้ oC , 
o F , K ( ไม่ต้องมี o
)
ความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยวัดต่าง ๆ

3.เซ็นเซอร์ การไหล (น้ำ,ลม)  

ตัวตรวจจับที่ได้รับการออกแบบมาสำหรับตรวจจับอัตราการไหลของน้ำโดยเฉพาะ ในตัวของมันประกอบด้วย โรเตอร์หรือแกนหมุนสำหรับรับน้ำที่มีแม่เหล็กชิ้นเล็กๆ ติดอยู่ และตัวตรวจจับฮอลล์เอฟเฟ็กต์ ซึ่งบรรจุอยู่ภายในตัวถังพลาสติกซึ่งผลิตจากไนล่อนและไฟเบอร์ที่มีข้อต่อสำหรับทางน้ำเข้าและทางน้ำออก เมื่อน้ำไหลเข้ามาในตัวตรวจจับ แกนหมุนที่อยู่ภายในจะหมุน ทำให้แม่เหล็กที่ติดอยู่กับใบพัดของแกนหมุนนั้นเกิดการเคลื่อนที่ผ่าตัวตรวจจับฮอลล์เอฟเฟ็กต์ ทำให้เกิดสัญญาณพัลส์ซึ่งจะมีอัตราตามความเร็วของกระแสน้ำที่ไหลเข้ามาในตัวตรวจจับ

แรงดันใช้งานคือ ถึง 24V กินกระแสไฟฟ้า 15mA ที่ไฟเลี้ยง+5V น้ำหนักรวม 43 กรัม ตรวจจับอัตราการไหลของน้ำได้ในช่วง0.5 ถึง 60 ลิตรต่อนาที ย่านความกดอากาศที่ใช้งานได้คือ ต่ำกว่า 1.2Mpa อุณหภูมิของน้ำที่ไหลผ่านต้องอยู่ในย่าน ถึง 80องศาเซลเซียส ความผิดพลาดในการตรวจจับน้อยกว่า 3 % ทางน้ำเข้าออกมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 0.5 นิ้ว มีเกลียวสำหรับขันยึดกับท่อ

ที่สายเอาต์พุตของตัวตรวจจับเมื่อนำไปต่อกับไมโครคอนโทรลเลอร์ควรต่อตัวต้านทาน 10kΩ พูลอัป เพื่อกำหนดสถานะลอจิกที่แน่นอนในขณะที่ยังไม่มีการตรวจจับการไหลของน้ำให้เป็นลอจิก "1" เมื่อเกิดการตรวจจับ สายเอาต์พุตจะให้สัญญาณเอาต์พุตเป็นพัลส์ที่แอกตีฟด้วยลอจิก "0" สัญญาณพัลส์เอาต์พุตมีค่าดิวตี้ไซเกิลในช่วง 40 ถึง 60%

ตัวตรวจจับนี้เหมาะสำหรับการวัดอัตราการไหลของน้ำประปา น้ำบริสุทธิ์ หรือของเหลวอื่นที่มีความหนืดใกล้เคียงหรือเท่ากับน้ำ ไม่แนะนำให้ใช้กับน้ำกรด ด่าง และน้ำมันทุกประเภท

4. เซ็นเซอร์ รูปภาพ 

 เซนเซอร์รูปภาพ (อังกฤษimage sensor) คืออุปกรณ์ที่แปลงภาพที่เห็นด้วยตาเป็นสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ โดยมากแล้วจะเป็นส่วนประกอบในกล้องดิจิตอล และอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับภาพอื่นๆ เซนเซอร์ในยุคแรกๆ นั้นจะมีลักษณะเป็นกระบอกกล้องวีดิทัศน์ ต่อมาจึงพัฒนาเป็นอุปกรณ์ถ่ายเทประจุ หรือเซนเซอร์พิกเซลตอบสนอง (charge-coupled device - CCD) แบบกึ่งตัวนำเมทัลอ็อกไซด์ควบเสริม (complementary metal-oxide-semiconductor - CMOS)

5.เซ็นเซอร์ เหนี่ยวนำ คือ

      บริเวณส่วนหัวของเซนเซอร์จะมีสนามแม่เหล็กซึ่งมีความถี่สูง โดยได้รับสัญญาณมาจากวงจรกำเนิดความถี่ ในกรณีที่มีวัตถุหรือชิ้นงานที่เป็นโลหะ
เข้ามาอยู่ในบริเวณที่สนามแม่เหล็กสามารถส่งไปถึง จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงค่าความเหนี่ยวนำ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เกิดการหน่วงออสซิลเลท (oscilate) ลดลงไป หรือบางทีอาจถึงจุดที่หยุดการออสซิลเลท และเมื่อนำเอาวัตถุนั้นออกจากบริเวณตรวจจับ วงจรกำเนิดคลื่นความถี่ก็เริ่มต้นการออสซิลเลทใหม่อีกครั้งหนึ่ง สภาวะดังกล่าวในข้างต้นจะถูกแยกแยะได้ด้วยวงจรอิเล็กทรอนิกส์ที่อยู่ภายใน หลังจากนั้นก็จะส่งผลไปยังเอาต์พุตว่าให้ทำงานหรือไม่ทำงาน โดยทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับชนิดของเอาต์พุตว่าเป็นแบบใด เพื่อเป็นการลดจินตนาการในการทำความเข้าใจการทำงานของเซนเซอร์ชนิดนี้จึงขอแสดงด้วยรูปต่อไปนี้

6.เซ็นเซอร์ สัมผัส คือ


เซนเซอร์วัดการสัมผัส (touch sensor) เป็นอุปกรณ์ที่ให้ค่าสัญญาณออกมาเมื่อมีการสัมผัส รูปแบบอย่างง่ายที่สุดของเซนเซอร์ชนิดนี้ คือ ไมโครสวิตช์ซึ่งมีการเปิดหรือปิดเมื่อสัมผัส ไมโครสวิตช์สามารถปรับตั้งค่าความอ่อนไหวหรือช่วงการเคลื่อนที่ได้ ตัวอย่างการใช้งาน เช่น การติดตั้งไมโครสวิตช์ไว้ที่ตัวหุ่นยนต์ และจะส่งสัญญาณไปยังส่วนควบคุมเมื่อหุ่นยนต์เคลื่อนที่ไปชนกับสิ่งกีดขวาง เซนเซอร์วัดการสัมผัสที่ซับซ้อนขึ้น สามารถส่งข้อมูลได้มากขึ้น เช่น เซนเซอร์วัดแรงที่ให้ทั้งข้อมูลการสัมผัสและขนาดของแรงที่กระทำ

7.เซ็นเซอร์ ในโรงงานอุตสหกรรม คือ


Sensor เปนอุปกรณสําคัญที่ใชงานอุตสาหกรรมในระบบการควบคุมแบบอัตโนมัติซึ่งสามารถ
แบงแยกตามลักษณะการใชงานและคุณสมบัติที่ไดคือ...
1. LimitSwitch (สวิทซจํากัดระยะ)
การทํางานจะอาศัยแรงกดจากภายนอกมากระทําเชน วางของทับที่ปุมกดหรือลูกเบี้ยวมาชนที่ปุมกด
2. PhotoElectric Sensors เปนอุปกรณอิเล็คทรอนิกสที่ใชสําหรับตรวจจับการมีหรือ
ไมมีวัตถุที่เราตองการตรวจจับโดยอาศัยหลักการวัดปริมาณของความเขมของแสงที่กระทบกับวัตถุและ
สะทอนกลับมายัง Photo Electric Sensors
3. ProximitySensors เปนอุปกรณอิเลคทรอนิคสที่ใชสําหรับตรวจจับการมีหรือไมมีของวัตถุโดย
อาศัยหลักการตรวจจับการเปลี่ยนแปลงของสนามแมเหล็กหรือสนามไฟฟาแบงไดเปน 2 แบบคือ
a. ชนิดสนามแมเหล็ก (Inductive) 
b. ชนิดสนามไฟฟา(Capacitive) 
ซึ่งพอที่จะสรุปจุดเดนจุดดอยในการนํา Sensorแบบตางๆ มาใชงานไดตามตารางขางลางนี้

8.เซ็นเซอร์ แม่เหล็กไร้สาย คือ

ปัญหาการจราจรคับคั่งในกรุงเทพฯนับเป็นหนึ่งในปัญหาหลักของประเทศไทย ที่ก่อให้เกิดความเสียหายทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคมเป็นอย่างมาก บุคลากรทั้งจากภาครัฐและเอกชนต่างก็ร่วมกันช่วยหาทางแก้ไขปัญหาหรืออย่างน้อยก็บรรเทาปัญหาการจราจรที่มีอยู่ให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ อย่างไรก็ตามความพยายามดังกล่าวดูเหมือนว่าจะไร้ซึ่งผลลัพธ์ที่ต้องการเนื่องจากปริมาณรถได้เพิ่มสูงขึ้นเป็นทวีคูณในแต่ละปี เมื่อพิจารณาดูเมืองใหญ่ๆในต่างประเทศที่มีปัญหาการจราจรเช่นกัน จะเห็นว่าได้มีการริเริ่มนำเอาเทคโนโลยีที่เรียกว่า ระบบขนส่งอัจฉริยะ (Intelligent Transport System, ITS) มาใช้ช่วยบรรเทาปัญหา ทางเนคเทคได้เล็งเห็นความสำคัญของการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีด้าน ITS เพื่อให้สามารถตอบสนองแก่นโยบายของรัฐผ่านทาง สนข. โดยโครงการพัฒนาต้นแบบเชิงธุรกิจเครือข่ายเซ็นเซอร์ไร้สายสำหรับงานตรวจนับรถยนต์ เสนอการวิจัยและพัฒนาต้นแบบเชิงธุรกิจต่อยอดจากต้นแบบที่ทางคณะนักวิจัยได้รับจากโครงการเครือข่ายเซ็นเซอร์ไร้สายสำหรับการตรวจนับรถยนต์ที่ได้ปิดโครงการไปในปีงบประมาณ 2550 โดยมีเป้าหมายเน้นพัฒนาให้ได้ต้นแบบเซ็นเซอร์แบบแม่เหล็กที่สามารถนำไปใช้ได้จริงกับงานตรวจนับรถยนต์ในสถานที่จอดรถ และ ตามท้องถนน

วันพุธที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

Blog คืออะไร

      Blog มาจากศัพท์คำเต็มว่า WeBlog  คือ เว็บไซต์ประเภทหนึ่ง ที่เจ้าของ หรือ Blogger สามารถบันทึกเรื่องราวของตนเองลงในเว็บได้ตลอดเวลา นอกจากนี้แล้ว Blog ยังเป็นพื้นที่ให้ Blogger โพสต์ข้อมูล หรือใส่ความรู้ ประสบการณ์ เพื่อเป็นวิทยาทานให้คนอื่นๆ เช่น คุณหมอ เปิดบล็อกแนะนำเรื่องสุขภาพ เป็นต้น การสร้างเว็บบล็อกสามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง ไม่ซับซ้อน ไม่จำเป็นต้องรู้ภาษา HTML อย่างน้อยขอให้มีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตและเว็บไซต์ ภายในเว็บบล็อก จะมีระบบบริหารจัดการเว็บไซต์พื้นฐานให้แล้ว โดยการสร้างเครื่องมือสำหรับ เขียนเรื่อง โพสรูป จัดหมวดหมู่ และลูกเล่นอื่นๆ ที่ผู้จัดทำพยายามสร้างเพื่อดึงดูดผู้คนจากทั่วโลก ให้เข้าไปใช้บริการ เสน่ห์ของบล็อกอยู่ที่ผู้อ่านและผู้เขียนสามารถโต้ตอบกันได้ (Interactive) โดยการแสดงความคิดเห็นต่อท้ายที่เรื่องนั้นๆ  ข้อแตกต่างของบล็อกกับเว็บไซต์ทั่วไป คือ บล็อกจะเปิดให้ผู้เข้ามาอ่านข้อมูล สามารถแสดงความคิดเห็นต่อท้ายข้อความที่เจ้าของบล็อกเป็นคนเขียน ซึ่งทำให้ผู้เขียนสามารถได้ผลตอบกลับโดยทันที
      ในปัจจุบันบล็อก ถูกใช้เป็นเครื่องมือสื่อสารรูปแบบใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการประกาศข่าวสาร การแสดงความคิดเห็น การเผยแพร่ผลงาน ฯลฯ และกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยขณะนี้ได้มีผู้ให้บริการบล็อกมากมาย ทั้งแบบให้บริการฟรี และเสียค่าใช้จ่าย ตัวอย่างผู้ให้บริการ Blog เช่น Bloggang, exteen หรือ BlogKa หรือต่างประเทศเช่น Blogger, Wordpress, MySpace
      บล็อกซอฟต์แวร์ หรือ บล็อกแวร์ คือ ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในอินเทอร์เน็ต ในลักษณะของระบบจัดการเนื้อหาเว็บ ที่ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์และผู้เขียนหรือดูแลบล็อกจะแยกจากกันต่างหาก ส่งผลให้ผู้เขียนบล็อกสามารถใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องมีพื้นฐานความรู้ในด้าน HTML หรือการทำเว็บไซต์แต่อย่างใด ทำให้ผู้เขียนบล็อกสามารถใช้เวลาส่วนใหญ่ในการ บริหารจัดการ เพิ่มเติม ข้อมูลและสารสนเทศแทนได้ นอกจากนี้บล็อกซอฟต์แวร์จะสนับสนุน ระบบ WYSIWYG ซึ่งทำให้ง่ายต่อการเขียน

รวมข่าว/สื่อมวลชน


เชียงใหม่นิวส์www.chiangmainews.co.thหนังสือพิมพ์เชียงใหม่นิวส์ จังหวัดเชียงใหม่
ไทยรัฐwww.thairath.comหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ หนังสือพิมพ์มวลชนคนชนบท
มติชนwww.matichon.co.thหนังสือมติชนและในเครือมติชน
เดลินิวส์www.dailynews.co.thหนังสือเดลินิวส์
แนวหน้าhttp://naewna.comหนังสือพิมพ์แนวหน้า
กรุงเทพธุรกิจwww.bangkokbiznews.comหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
ข่าวสดwww.khaosodusa.comหนังสือพิมพ์ข่าวสด
ผู้จัดการwww.manager.co.thหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ
ฐานเศรษฐกิจwww.thannews.th.comหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
สยามธุรกิจwww.siamturakij.comหนังสือพิมพ์สยามธุรกิจ
บางกอกโพสต์www.bangkokpost.comหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์
ไทยโพสต์www.thaipost.netหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์
เนชั่นwww.nationmultimedia.comหนังสือพิมพ์ในเครือเนชั่นกรุ๊ป
คม ชัด ลึกwww.komchadluek.comหนังสือพิมพ์คม ชัด ลึก
เส้นทางดอทคอมwww.sentang.comเว็บไซต์หนังสือพิมพ์เส้นทางเศรษฐกิจ
สยามกีฬาwww.siamsport.co.thหนังสือสยามกีฬารายวัน
อสมท.ดอทคอมwww.mcot.or.thข่าวสารขององค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย (อสมท.)
ช่อง 3www.thaitv3.comเว็บไซต์ของสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 บางขุนพรหม
ช่อง 5www.tv5.co.thเว็บไซต์ของสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5
ช่อง 7www.ch7.comเว็บไซต์ของสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 7
ช่อง 9www.mcot.or.thเว็บไซต์ของสถานีวิทยุและโทรทัศน์ช่อง 9 อสมท.
ช่อง 11www.prd.go.thเว็บไซต์ของสถานีวิทยุและโทรทัศน์ช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์
ไอทีวีwww.itv.co.thเว็บไซต์ของสถานีโทรทัศน์ไอทีวี ทีวีเสรี
ยูบีซีwww.ubctv.comเว็บไซต์ของสถานีโทรทัศน์ในเครือข่าย ยูบีซี
เนชั่นชาแนลwww.nationchannel.comสถานีข่าว 24 ชั่วโมงแห่งเดียวของไทย
สามารถออนไลน์www.samarts.comศูนย์รวมของข้อมูลข่าวสารที่น่าสนใจซึ่งผ่านการเลือกสรรแล้ว
ไทยแลนด์ดอทคอมwww.thailand.comเว็บไซต์เกี่ยวกับประเทศไทย ทั้งการท่องเที่ยวและข่าวสาร ฯลฯ

                                           ข้อมูลส่วนตัว

                                                              นาย นราธิป  พานิชศิริ
 วิทยาลัยเทคนิคเลย    ปวช 2       ช่างอิเล็กทรอนิกส์   กลุ่ม 1         เลขที่ 7